เดินหน้าชน : ลุ้น‘จีดีพี4%’
ผู้คนจำนวนมากยังไม่ค่อยแน่ใจว่า ความฝันของ พล.อำเภอประยุทธ์ จันทร์โอชะ นายกฯและก็ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หวังให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ หรือจีดีพี ปี 2564 เติบโต 4% จะทำเป็นใช่หรือไม่
รัฐบาลบางทีอาจประเมินจากธนาคารโลก หรือเวิลด์ธนาคาร คาดว่าในปี 2564 เศรษฐกิจโลกจะเติบโต 4-5% จากสิ่งสำคัญเป็น โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ อัดฉีดงบประมาณกว่า 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ มีส่วนช่วยกระตุ้นการบริโภคของโลก
และแนวทางรีบฉีดยาเพื่อรู้สึกตัวเศรษฐกิจในประเทศ บางทีอาจช่วยทำให้เศรษฐกิจสหรัฐกระดอนตัวกลับมาเร็วแล้วก็แรงขึ้น
ด้วยเหตุว่าเดิม ที่ทำการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจรวมทั้งสังคมแห่งชาติ (สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ) หรือสภาพัฒน์ คาดว่าจีดีพี ปี 2564 โต 3.5-4.5% แม้กระนั้นข้างหลังมีการแพร่ระบาดของวัววิด-19 ระลอกใหม่ ตอนต้นปี 2564 ก็เลยปรับลดเหลือ 2.5-3.5% ใกล้เคียงกับการประเมินการของเอกชนเห็นว่าจีดีพีปีนี้จะเติบโตโดยประมาณ 2.6-2.8%
แม้กระนั้นเมื่อทางรัฐบาลมีท่าทางเด่นชัด จริงจังกับจำนวน 4% ก็เลยมีมุมมองนานาประการข้อคิดเห็น
อย่าง นายลั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการที่ประชุมหอการค้าที่เมืองไทย คิดว่าเมื่อ นายสุพัฒนดงษ์
พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯแล้วก็ รัฐมนตรีว่าการพลังงาน รายงานในงานการประชุม ปี 2021 เมืองไทยไปต่อ จัดโดยหนังสือพิมพ์ความเห็นชน เมื่อเร็วๆนี้ ตอกย้ำซ้ำเติมความเชื่อมั่นและมั่นใจว่า จีดีพีไทยปีนี้คาดคะเนว่าจะเติบโตได้ 4%
นายลั่นก็เลยประเมินพื้นฐานว่า จีดีพีไทยโต 4% นั้นทำเป็น แม้กระนั้นส่วนสำคัญเป็นผู้กระทำระจายการฉีดยา และก็มั่นใจว่าตอนนี้รัฐบาลมีแผนการแล้ว เหลือเพียงแค่ปฏิบัติการตามแผนเพียงแค่นั้น
ประธานที่ประชุมหอพักฯคิดว่า ตอนไตรมาส 3/2564 พลเมืองคงจะเชื่อมั่นในตนเองขึ้น เพราะว่าวัคซีนจะกระจัดกระจายฉีดให้คนภายในประเทศหลายล้านโดสแล้ว หากว่าไม่มีความบกพร่องหรือผลกระทบร้ายแรงเกินคาดหมาย ก็คงจะทยอยเปิดรับนักเดินทางต่างประเทศให้เข้ามาท่องเที่ยวไทยได้
ในตอนที่ นายเกียรติยศวงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสประจำเมืองไทย ธนาคารโลก หรือเวิลด์ธนาคาร บอกว่า เวิลด์ธนาคารประมาณจีดีพีไทยปีนี้อยู่ที่ 3.4% โดยเห็นว่าเศรษฐกิจจะฟื้นยังแบบค่อยๆเป็น ค่อยๆไป จะใช้เวลาสำหรับในการกลับสู่ระดับเดิมพอๆกับก่อนวัววิดระบาด อาจจะเป็นปี 2565 จะกลับมาโตโดยประมาณ 4.7%
ขึ้นอยู่กับว่ามีกำลังขับเขยื้อนอะไรบ้าง แนวทางการเงินยังจำเป็นจะต้องมีเพื่อเกื้อกูลเศรษฐกิจ เมื่อใดเศรษฐกิจยังไม่โตเต็มสมรรถนะ รวมทั้งยังมีความไม่เที่ยงค่อนข้างจะมาก
นายเกียรติยศเหล่ากอเห็นว่า ไทยพึ่งพาอาศัยการท่องเที่ยวมาก โดยประมาณ 13-15% ของจีดีพี มีนักท่องเที่ยว 40 ล้านคนตอนก่อนวัววิด แม้กระนั้นกำหนดจุดมุ่งหมายสำหรับปีนี้เหลือเกิน 4.5 ล้านคน
แต่ว่าก็ยังมีความไม่เที่ยงออกจะสูง
นายเกียรติยศวงศ์วานพินิจพิจารณาว่า งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยในเวลานี้อยู่ที่ 6% ของจีดีพี ออกจะมากมายเมื่อเทียบกับประเทศอื่น สะท้อนว่าเมืองยังมีคุณภาพ มีพื้นที่การเงินรองรับผลพวงจากวัววิดได้ ยังมีพื้นที่สำหรับใช้หลักการการเงิน ส่วนหนี้สินสาธารณะก็มิได้สูงมากมายอยู่ที่ 53% ต่อจีดีพี
ฉะนั้น ก็เลยยังควรจะใช้หลักการแก้ไขเฉพาะเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย กรุ๊ปได้รับผลพวงร้ายแรง ดังเช่นว่า ภาคท่องเที่ยว ฯลฯ หรืออีกกรุ๊ปที่น่าห่วงข้างหลังวัววิดเป็น กรุ๊ปคนวัยชรา เนื่องจากว่าไทยกำลังไปสู่สังคมคนชรา
สิ่งจำเป็นควรจะปรับปรุงระบบผลประโยชน์ให้เชื่อมโยงกระจ่างแจ้ง ด้วยเหตุว่าในช่วงเวลานี้ไทยมีโครงงานระบบผลประโยชน์ออกจะเยอะแยะ ดูแลหลายกรุ๊ป
ทำยังไงให้ข้อมูลเชื่อมกันเพื่อติดตามประเมินว่ากรุ๊ปได้รับผลพวงควรจะได้รับผลประโยชน์ ได้รับแล้วทำให้สถานภาพหรือฐานะดียิ่งขึ้นไหม
อีกส่วนเป็นควรที่จะนำข้อมูลผลประโยชน์นำไปเชื่อมกับข้อมูลแรงงาน เพื่อช่วยสำหรับในการฝึกหัดเพิ่มความชำนาญ ตัวอย่างเช่น ทางเทคโนโลยีดิจิทัล ฯลฯ เพิ่มเพื่อจังหวะสำหรับในการหางาน
นายเกียรติยศพงศ์พันธุ์ดูเสมือนผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยว่า วัคซีนมีความหมายมากมาย จะก่อให้กลับสู่สภาวะธรรมดาได้ จะต้องรีบกระจัดกระจายและก็ฉีดตามแผนให้แจ่มแจ้ง
เพราะฉะนั้น ฝันของ “บิ๊กตู่” จะเป็นจริงได้ไหม
เหตุเรื่องวัคซีนก็เลยเป็นส่วนสำคัญ บริหารจัดแจงให้มีคุณภาพ และก็ติดต่อสื่อสารกับประชากรให้ชัด
คงจะช่วยทำให้ต่อสู้วัววิดไปถึงฝั่งฝันจีดีพี 4% ได้อย่างง่ายๆ
สุรพล สุประดิษฐ์ในอยุธยา