ชายหนุ่มเสพยาจนกระทั่งหลอน คิดพี่สะใภ้เป็นผีปอบจะมากิน ก่อกวนราษฎรวิ่งหนีจ้าละหวั่น


ชายหนุ่มเสพยาจนกระทั่งหลอน คิดพี่สะใภ้เป็นผีปอบจะมากิน ก่อกวนราษฎรวิ่งหนีจ้าละหวั่น
เมื่อเวลาราว 19.20 น. วันนี้ (11 เดือนมีนาคม 2564) ด.ต.อวยพร นุลวงศ์ ผู้บังคับบัญชากลุ่ม เปรียญสภ.ท่าบ่อ (ปฎิบัติหน้าที่ข้าราชการติดต่อ สภ.ท่าบ่อ) รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย รับบอกเหตุมีบุคคลบ้าคลั่ง ก่อกวน ที่รอบๆตลาดสด บ้านโคกคอน กลุ่มที่ 4 ตำบลโคกคอน อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ข้างหลังรับแจ้ง ได้ผสาน ด.ต.ปิยวัฒน์ เกิด หัวหน้าศูนย์บริการสามัญชนตำบลโคกคอน ,ร้อยตำรวจเอกอารีย์ ป้องขวาพล รอง สารวัตรปราบปรามสภ.ท่าบ่อ นำกำลังข้าราชการสายตรวจเข้าตรวจทาน
จุดเกิดเหตุเป็นรอบๆถนนหนทางหน้าตลาดสด เจอเพศชายรู้ชื่อตอนหลังเป็นนายภานุวัฒน์ ศรีชัย อายุ 22 ปี จังหวัดหนองคาย ใส่กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ ใส่เสื้อสีดำ อยู่ในอาการคลั่ง โวยวายว่ามีผีปอบจะมารังควานตัวเอง ในโทรศัพท์เคลื่อนที่ขวดเป็นอาวุธ อยู่กึ่งกลางถนนหนทาง มีพี่น้องๆรวมทั้งประชาชน
ยืนดูด้วยความกลัว รอบๆรอบๆมีเศษขวดแตกเยอะมากๆ จากการก่อกวนของนายภานุวัฒน์ ข้าราชการก็เลยจัดกำลังปิดถนนหนทางไม่ให้รถยนต์เดินทางผ่านคุ้มครองอันตราย ก่อนจะเข้าชักชวนกระทั่ง นายภานุวัฒน์ มีท่าทีอ่อนลง ข้าราชการก็เลยเข้าคุมตัวไประงับอารมณ์ที่ สภ.ท่าบ่อ
จากการซักถาม นางธัพ่อ ลีความรอบรู้ อายุ 33 ปี ที่อยู่ 171 กลุ่ม 4 ตำบลโคกคอน อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นพี่สะใภ้คนก่อเหตุรู้ว่า ในช่วงเวลาที่นั่งรับประทานข้าวอยู่นั้นผู้ก่อเรื่องตะเบ็งบอกกับตนว่าตนเป็นปอบจะมาปองร้าย แล้วคนก่อเหตุก็วิ่งออกไปตีขวดหน้าบ้าน รวมทั้งขว้างขวดไปทั่วรอบๆแล้วก็โยนใส่บ้านที่พักประชาชนข้างๆ พร้อมตวาดว่าตนเป็นผีปอบกำลังจะรับประทาน ซึ่งก่อนหน้านี้นายภานุวัฒน์ ชอบก่อเหตุแบบงี้ประจำ แต่ว่าคราวนี้ร้ายแรงที่สุดสร้างความกลัวให้กับประชาชนเป็นอันมาก

ต้นสายปลายเหตุมาจากนายภานุวัฒน์ เสพสารเสพติดเสมอๆ ส่งผลให้เกิดอาการหลอนบ้าคลั่ง ตนพร้อมทั้งพี่น้องเป็นคนเลี้ยงมาแท้ๆแม้กระนั้นเดี๋ยวนี้จำเป็นต้องอยู่ด้วยความกลัวรวมทั้งมีหวาดหวั่นมีอันตราย ก็เลยอยากที่จะให้ข้าราชการหาวิธีจัดแจงให้ด้วย

ข้างหลังเกิดเหตุประชาชนแถวดังกล่าวข้างต้นได้ช่วยเหลือกันปัดกวาดเก็บเศษแก้วที่แตกกระจายเกลื่อนกลาดอีกทั้งตามถนนหนทางแล้วก็สองริมถนนใช้เวลาเกือบจะ 2 ชั่วโมง โดยประชาชนกำหนดตรงกันต้องการที่จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวมาดำเนินการเกื้อกูลด่วน เนื่องจากนับว่าเป็นภัยในชุมชน.